สวัสดีครับ วันนี้น้องเฟรชมาพร้อมกับสาระดีๆจากถั่วกันอีกแล้ว ครั้งนี้น้องเฟรชจะมาแนะนำเพื่อนๆให้รู้จักกับถั่ววอลนัท
รู้หรือไม่ วอลนัทกินทุกวัน ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ด้วยนะ
คอเลสเตอรอล เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน ไขมันอุดตัน ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดหัวใจตีบ และอื่นๆ ดังนั้นการควบคุมคอเลสเตอรอลในร่างกายจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพียงแค่กินถั่ววอลนัททุกวันก็สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลได้แล้ว และยังมีประโยชน์อื่นๆตามมาอีกด้วย วันนี้น้องเฟรชรวบรวมมาให้ 9 ข้อด้วยกัน
9 ประโยชน์ดีๆ จากถั่ววอลนัท
1.ลดคอเลสเตอรอล
ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเผยว่า วอลนัทอุดมไปด้วยโฟเลท วิตามินอี และไขมันชนิดดี ที่แม้จะเป็นถั่วที่ให้แคลอรีค่อนข้างสูง แต่กลับไม่พบว่าวอลนัทเป็นส่วนเร่งน้ำหนักตัวให้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด นอกจากนี้นักวิจัยจาก Yale University Prevention Research Center ก็ได้เผยข้อมูลการทดลองมาว่า กลุ่มอาสาสมัครที่รับประทานวอลนัทจำนวน 2 ออนซ์ หรือประมาณ 56 กรัม เป็นประจำทุกวันในระยะเวลานาน 6 เดือน จะมีระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะไม่ได้คุมอาหารอื่น ๆ ร่วมด้วยเลยก็ตาม ดังนั้นนักวิจัยจึงการันตีว่าวอลนัทสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้จริง และจะดีมากหากรับประทานวอลนัทประมาณ 1 กำมือต่อวัน
2. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
วอลนัทเป็นพืชตระกูลถั่วที่อุดมไปด้วยโปรตีน มีไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งนอกจากจะช่วยลดระดับของคอเรสเตอรอลแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ สอดคล้องกับงานวิจัยที่ระบุว่าวอลนัทเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีประโยชน์มากสำหรับหัวใจ อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยปกป้องเยื่อบุหลอดเลือดแดงที่อาจเกิดการอุดตันจนทำให้หัวใจวายได้อีกต่างหาก
3. ช่วยลดน้ำหนัก
วอลนัทปริมาณ 1 ออนซ์ หรือราว ๆ 28 กรัม มีปริมาณไฟเบอร์อยู่ 2 กรัม โปรตีน 4 กรัม และกรดไขมันโอเมก้า 3 2.5 กรัม จึงนับว่าเป็นอาหารที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้ โดยเฉพาะคนที่กำลังควบคุมอาหาร การรับประทานวอลนัทสัก 1 กำมือต่อวันจะช่วยให้คอนโทรลแคลอรีของอาหารที่จะกินเข้าไปได้ดียิ่งขึ้น
4.ลดความเสี่ยงโรคอ้วนลงพุง
สารต้านอนุมูลอิสระและคุณสมบัติต้านการอักเสบในวอลนัทเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยต่อต้านความเสี่ยงโรคอ้วนลงพุงได้ อีกทั้งโปรตีนและไฟเบอร์ในวอลนัทยังจะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มท้อง เอื้อให้คุมอาหารได้ดีขึ้น
5. ลดความเครียด
วอลนัทมีสรรพคุณเด็ดดวงตรงที่ช่วยลดความตึงเครียดได้ เพราะทั้งไฟเบอร์ สารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมันไม่อิ่มตัว โอเมก้า 3 และอัลฟา-ลิโนลินิค ที่มีอยู่ในวอลนัท เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยลดระดับความดันโลหิต แถมยังช่วยคงระดับความดันโลหิตให้อยู่ในภาวะสมดุลอีกต่างหาก
6.ป้องกันโรคเบาหวาน
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงใน Journal of Nutrition เผยว่า อาสาสมัครที่รับประทานวอลนัทปริมาณ 28 กรัม เป็นเวลา 2 ครั้งต่อสัปดาห์ มีแนวโน้มลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ราว 24%
7.ป้องกันความจำเสื่อม
ดร.Abha Chauhan และคณะจาก New York State Institute ได้ทดลองให้หนูกินวอลนัทเป็นประจำและพบว่า วิตามินอีและฟลาโวนอยด์ในวอลนัทมีส่วนช่วยทำลายอนุมูลอิสระและเคมีร้ายบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับโรคสมองเสื่อม ทำให้หนูทดลองที่มีภาวะสมองเสื่อมมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
8.แก้ปัญหานอนไม่หลับ
วอลนัทมีสารเมลาโทนิน และเมลาโทนินก็เป็นตัวที่คอยควบคุมนาฬิกาชีวิตของเรา ช่วยให้เรานอนหลับและตื่นได้ตามเวลาปกติ ไม่เกิดอาการนอนไม่หลับ นอนไม่พอ ดังนั้นหากจะบอกว่าวอลนัทเป็นอาหารที่ช่วยให้นอนหลับสบายก็คงไม่ผิดนัก
9.ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม
นักวิจัยจาก Marshall University พบว่า หากรับประทานวอลนัทเป็นประจำทุกวัน ในปริมาณไม่ต่ำกว่า 56 กรัม จะช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมได้ โดยอ้างจากการทดลองที่ให้หนูกินวอลนัททุกวัน ซึ่งผลปรากฏว่า หนูทดลองมีแนวโน้มเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมลดลง และมีจำนวนเนื้องอกลดจำนวนลง อีกทั้งหนูที่ถูกวินิจฉัยว่ามีเนื้องอกอยู่ในตัว เนื้องอกเหล่านั้นก็มีขนาดเล็กลงด้วย
.
เห็นประโยชน์เยอะอย่างนี้ น้องเฟรชต้องขอตัวไปหามาทาน ลดพุงกับเขาบ้างแล้วล่ะค้าบบบบบ เจอกันใหม่บทความหน้า ฮึบ
ขอบคุณข้อมูลจาก https://health.kapook.com/view148070.html
ถั่วนำเข้าเกรดพรีเมียม เม็ดใหญ่สวย คัดทุกเม็ดก่อนลงถุงจ้าา
ถั่ววอลนัท, ถั่วอัลมอนด์
100 กรัม 88.-
300 กรัม 238.-
ถั่วพีแคน
100 กรัม 99.-
300 กรัม 285.-
โปรโมชั่นช้อปครบ 500 คละสินค้าได้ทั้งร้าน จัดส่งฟรีทั่วประเทศ
(ปกติค่าส่ง 80 บาท)
ติดต่อผ่านแอดมินได้ที่
Inbox : https://www.facebook.com/FreshlivingTH/inbox
Shopee : Freshliving https://shp.ee/qkxt655
Tel : 063-192-4288